วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

บทความที่ 9  



ถ้าเสียงไม่เพราะเลยเสียงเหมือนเป็ดแหบมากจะฝึกร้องเพลงได้หรือเปล่า

ได้สิคะแต่เราไม่สามารถเปลี่ยนเสียงให้เป็นไม่แหบนั้นไม่ได้ค่ะแต่สามารถร้องเพลงทั้งที่เสียงแหบเสียงเป็ดได้แต่ร้องได้ถูกโน๊ตและแม่นยำ จังหวะตรงแม่นยำและฟิลลิ่งดีไพเราะได้ด้วยความทำความเข้าใจศิลปะการร้องเพลงให้ถูกทาง ถึงเสียงจะแหบ (โดยกำเนิด) ก็ร้องเพลงได้นะคะแต่ขอให้ถูกโน๊ตจังหวะฟิลลิ่งดีก็ไพเราะแล้วนะ ส่วนคนที่แหบเพราะเส้นเสียงอักเสบนั้น ต้องรักษาให้หายดีก่อนค่อยมาเรียนจะดีกว่าเพราะไม่เช่นนั้นปัญหาจะเรื้อรังไปกันใหญ่ค่ะ








บางคนมีปัญหาหนักมากกว่าเสียงแหบนั่นคือ เพี้ยนจัด คร่อมจังหวะมาก พูดไม่ชัด พูดตะกุกตะกัก เรียกว่ามีปัญหาทางบุคลิกภาพนั่นเอง ครูปอยเคยสอนและได้ผลดีขึ้นแต่ใช้เวลามากหน่อยประมาณ 6 คอร์สเรียกว่าตอนสอนนั้นไมเกรนขึ้นเลยทีเดียวแต่เมื่อนักเรียนตั้งใจเรียนเราก็ไม่สามารถจะทิ้งเด็กที่มีความตั้งใจสูงแบบนั้นได้ เมื่อเรียนไปก็ยิ่งทำให้ประทับใจว่าเขาพยายามทำไมเราจะไม่พยายามล่ะจากการเห็นใจและความใส่ใจที่มีทำให้ผลออกมาประทับใจจนน้ำตาไหล คือเรียกว่าฟันฝ่าอุปสรรคกันทั้งครูปอยและนักเรียนคนนั้น ประทับใจที่ทำให้จอร์จเข้าสังคมได้และร้องเพลงได้เพื่อนๆ ให้การยอมรับทำให้จอร์จมีความสุขมากขึ้นจากที่ร้องเพี้ยนจนครูปอยไมเกรนขึ้น ทุกครั้งที่สอนจอร์จ ถึงขนาดว่าพอจบคอร์สที่ 1 ภาวนาในใจว่าอย่าต่อคอร์สเลยนะจอร์จ











แต่ต่อคอร์สค่ะ เราเลยคุยกับจอร์จว่าตั้งใจแน่นะถ้าตั้งใจแบบนี้เราก็มาสู้ไปด้วยกันบอกตรงๆ ครูปอยเครียดทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเพี้ยนทั้งชั่วโมง ทั้งเพี้ยน คร่อม และ ภาษาตะกุกตะกัก ติดขัดตลอด เป็นเคสที่ยากมากที่สุดในชีวิตที่เคยสอน แต่ในที่สุดก็ผ่านได้ด้วยดีแม้จะเหนื่อยแต่ก็คุ้มทั้งครูศิษย์และคุณพ่อที่มานั่งรอลูกชายทุกครั้งที่มาเรียน 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น